แก้ไขบุกรุกป่าเขาค้อ เล็งใช้นโยบาย คทช. อำเภอฯชงป่าลุ่มน้ำชั้น 1-5 เนื้อที่ 104,072 ไร่ เสนอ คทช.จังหวัดพิจารณา

นายสมพงษ์ ทองหนูนุ้ย ปลัดอาวุโสอำเภอเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์

กล่าวชี้แจงถึงแก้ไขปัญหาบุกรุกที่ดิน รอส.เขาค้อต่อที่ประชุมวาระยามเช้าก่อนหน้านี้ ซึ่งมีนายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์เป็นประธานฯว่า ตามที่อำเภอเขาค้อร่วมกับกองพลทหารม้าที่ 1และกรมป่าไม้ จัดระเบียบโดยบังคับใช้กฎหมายกับผู้บุกรุกในพื้นที่ ซึ่งจัดวางแผนดำเนินการทั้งหมด 4 ขั้นตอน โดยขั้นตอนแรกดำเนินการบังคับใช้กฎหมายกับรีสอร์ทนอกแปลงจำนวน 135 แห่ง ที่ผ่านมาได้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีไปเรียบร้อยแล้ว โดยพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อส่งอัยการสั่งฟ้อง ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนที่ 2 ดำเนินการกลุ่มบุกรุกซึ่งตรวจพบเพิ่มเติมอีก 358 แห่ง

นายสมพงษ์กล่าวว่า โดยกลุ่มนี้จะแตกต่างกับกลุ่มแรกเนื่องจากมีเป็นรีสอร์ทในกลุ่มนายทุน 33 แห่ง ส่วนที่เหลือเป็นราษฎร 289 รายและรอส.36 ราย เมื่อคัดแยกจริงๆเป็นรีสอร์ทนายทุนแค่ 5 แห่งเท่านั้น เบื้องต้นที่ประชุมหน่วยที่เกี่ยวข้องกับการจัดระเบียบฯให้ดำเนินการกับกลุ่มนายทุนก่อน ปัจจุบันได้เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินคดีไปแล้วทั้ง 5 ราย ส่วนที่เหนือซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยและร้านค้านั้นจะต้องมากำหนดมาตรการแก้ไขและต้องมานั่งพูดคุยกันอีกที

ปลัดอาวุโสอำเภอเขาค้อกล่าวอีกว่า ส่วนขั้นตอนที่ 3 ดำเนินการจัดระเบียบกับรีสอร์ทที่อยู่ในแปลง รอส.จำนวน 332 แห่ง และขั้นตอนสุดท้ายจะดำเนินการกับรอส.ที่ผิดเงื่อนไขจำนวน 1,552 ราย ซึ่งตรงนี้อยากสะท้อนในที่ประชุมจังหวัดเห็นว่า การดำเนินการทำในลักษณะที่เป็นพี่น้องประชาชนและคนที่ใช้ประโยชน์ในพื้นที่ ไม่มีคนจากภายนอกเข้าไปอยู่ภายใน เพียงแต่การดำเนินการต้องปฏิบัติตามกฎหมายก็ว่าไป เพียงแต่ว่าจะชี้ให้เห็นว่าแนวโน้มการดำเนินการจะเริ่มคุกคามเข้าไปสู่ประชาชนมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะการการดำเนินการของเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องมีมาตรการและแนวทางมากขึ้นด้วย

“ยังดีที่ทางผู้ว่าราชการจังหวัดมีนโยบายในเรื่องคทช.ที่ดินบนเขาค้อ ซึ่งจะมีการนำเรื่องนี้มาเชื่อมโยงกับการแก้ไขปัญหาที่ดินบนเขาค้อ เพื่อจะตอบให้ได้ว่า 1,552 รายในขั้นตอนที่ 4 หลังจากคนกลุ่มนี้จะได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างไร ซึ่งมีความอ่อนไหวค่อนข้างมากเพราะเป็นเรื่องของประชาชนไม่ใช่นายทุน ตรงนี้จึงจำเป็นต้องมีมาตรการและขบวนการแก้ไขปัญหาเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า เพื่อถูกเพิกถอนแล้วจะเข้าสู่ขบวนการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลได้ก็คือนโยบายคณะนโยบายที่ดินแห่งชาติ(คทช.) ซึ่งอำเภอเขาค้อได้นำร่องแล้ว”ปลัดอาวุโสอำเภอกล่าว

 

นายสมพงษ์กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางคทช.อำเภอเขาค้อ ได้มีการสำรวจและนำเสนอแล้วโดยดูในภาพรวมทั้งอำเภอ ซึ่งมีทั้งหมด 7 ตำบล 4,913 แปลง โดยพื้นที่มีอยู่ในชั้นลุ่มน้ำ 1, 2, 3 ,4 และ 5 โดยมีการแบ่งแยกประเภทป่าเป็น 4 กลุ่มประเภทพื้นที่ดิน กลุ่มที่ 1 เป็นพื้นที่ป่าสงวนเขาโปกหล่น-ปางก่อวังชมและป่าเขาโนนเพิ่ม โดยป่าสงวนเขาโปกหล่นจอยู่บริเวณต.แคมป์สนและต.ทุ่งสมอ ป่าสงวนฯเขาปางก่อวังวังชมพูอยู่ 4 ตำบลเขตตอนบนของเขาค้อ ส่วนป่าสงวนโนนเพิ่มอยู่ต.เข็กน้อย โดยพื้นที่ดังกล่าวมี 7 ผังแปลงรวมเนื้อที่ทั้งหมด 63,185 ไร่

ปลัดอาวุโสอำเภอเขาค้อกล่าว สำหรับกลุ่มที่ 2 ในพื้นที่ 4 ตำบลที่กองทัพภาคที่ 3 ขอใช้ประโยชน์จากกรมป่าไม้ ที่ทาง คทช.เขาค้อนำเสนอเข้ามาเพราะเป็นพื้นที่จะนำมาจัดได้แต่มีเงื่อนไขผูกพัน ฉะนั้นเรื่องนี้ต้องเสนอทางจังหวัดและกรมพิจารณาอีกครั้ง โดยพื้นที่ในเขตทหารขอใช้เสนอมาทั้งสิ้น 4,813 แปลง 40,120 ไร่ ตามจำนวนบล็อกที่ทหารเคยจัดให้รอส.มาก่อน ส่วนเรื่องคนค่อยมากำหนดกฎเกณฑ์กันในภายหลัง

นายสมพงษ์กล่าวว่า ส่วนกลุ่มที่ 3 อยู่ในเขตป่าอนุรักษ์ได้แก่เขตอุทยานแห่งชาติเขาค้อ ทางอุทยานฯสำรวจพื้นที่มาทั้งหมดแล้วมีจำนวน 44 แปลง เนื้อที่ราว 516 ไร่ โดยมีประชาชนไปทำประโยชน์และแก้ไขปัญหาเสร็จแล้ว และกลุ่มสุดท้ายเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาค้อ อยู่ในเขต ต.เขาค้อ และ ต.หนองแม่นามีจำนวน 56 แปลงเนื้อที่ 250 ไร่ รวมพื้นที่ทั้งหมดที่อำเภอเขาค้อนำเสนอและแจ้งให้ทางคทช.จังหวัดพิจารณารวมทั้งหมด 4,913 แปลง 104,072 ไร่

ข้อมูล/รูปภาพ : 77kaoded