ชาววิเชียรเดือดร้อนหนัก เจอปัญหาเขม่าดำ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “หิมะดำ” ซึ่งเกิดจากการเผาไร่อ้อย

ชาวบ้านในอำเภอวิเชียรบุรี กำลังเดือดร้อนหนักจากปัญหาเขม่าดำ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า หิมะดำ

ซึ่งเกิดจากการเผาไร่อ้อย ทำให้เกิดเขม่าจำนวนมากปลิวลอยไปไกลกว่า 3 กม. ตกตามสถานที่ชุมชน โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่ตากอยู่กลางแจ้ง

จากการเผาไร่อ้อยของชาวสวนในช่วงฤดูเปิดหีบอ้อย กำลังสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน และชุมชน เนื่องจากเขม่าควันซึ่งเกิดจากการเผาไร่อ้อยได้ปลิวไปตกในตลาดอำเภอวิเชียรบุรี ร่วมทั้ง วัด โรงเรียน และ บ้านเรือนประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่ซักตากไว้กลางแจ้ง ทำให้ประชาชนกำลังเดือดร้อนหนักจากเหตุการณ์ดังกล่าว

เนื่องจากขณะนี้เป็นฤดูตัดอ้อยส่งโรงงานผลิตน้ำตาลที่อยู่ในพื้นที่อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ เกษตรกรผู้ปลูกอ้อย จึงต้องเร่งรีบตัดอ้อยส่งเข้าโรงงาน บางส่วนมักจะใช้วิธีการเผาต้นอ้อยเพื่อง่ายต่อการตัด โดยจะใช้วิธีจุดไฟเผาป่าอ้อยในช่วงเวลากลางคืน นอกจากนี้ เกษตรกรบางรายที่ตัดอ้อยแล้ว จะเผาเศษวัสดุของอ้อยเพื่อจะทำการเพาะปลูกใหม่ ทำให้ชาวบ้านในอำเภอวิเชียรบุรี และ อำเภอใกล้เคียง ต่างได้รับผลกระทบจากกลิ่นควัน และ เศษซากเขม่าจากการเผาไร่อ้อย เกิดเป็นขี้เถ้าเขม่าปลิวว่อนคล้ายหิมะดำตก ซึ่งจะล่องลอยไปในอากาศไกลกว่า 3 กิโลเมตร สร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก

นายวิโรจน์ ธูปมงคล อายุ 63 ปี ชาวบ้านอำเภอวิเชียรบุรี บอกว่าเขม่าควันดังกล่าวเริ่มปลิวมาในตอนสายวันนี้ เพียง 30 นาที เขม่าก็ตกลงมาคลุมไปทั้งพื้นที่

ขณะที่ นายวรุตต์ เตียวสมบูรณ์กิจ อายุ 56 ปี เชื่อว่าเขม่าควันดังกล่าวน่าจะมาจากการเผาอ้อยในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งทำให้เกิดความสกปรก และ มลภาวะ หากเป็นอย่างนี้นานๆเข้าน่าจะมีผลกระทบต่อระบบหายใจของประชาชน

หลังเกิดเหตุการณ์ ชาวบ้านต้องเร่งทำความสะอาดอาคารบ้านเรือนของตนเอง เพราะเกรงว่าจะเกิดอาการแพ้ฝุ่นละออง หรือ ผดผื่นคัน ส่วนในพื้นที่สาธารณะ เช่น ถนนสายต่างๆ ยังไม่ได้ทำความสะอาด ชาวบ้านหวังว่าจะมีหน่วยงานที่รับผิดชอบ เข้ามาดูแลและช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว

แหล่งข้อมูล/ch3newsthailand