หลานคลั่งยาบ้า เผาบ้านตัวเอง สุดท้ายโดนจับ ป้าเผยร้องขอความช่วยเหลือจากตำรวจในพื้นที่แล้ว แต่ไร้การตอบสนอง
เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านพักสองชั้น หมู่ที่ 7 ตำบลบัววัฒนา […]
ผู้ใหญ่บ้านปัดไม่มีเอี่ยว ธุรกิจรถรางทุ่งกังหันลมเขาค้อ เชื่อชื่อโผล่ถูกร้อง เพราะผู้เสียผลประโยชน์ไม่พอใจ
วันที่ 15 พฤศจิกายน 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีชาวบ้านที่เขาค้อร้องเรียน 2 ผู้นำหมู่บ้าน บริหารงานวิสาหกิจชุมชนฯไม่โปร่งใส-เอื้อนายทุน โดยเฉพาะธุรกิจรถรางรับนักท่องเที่ยว พร้อมจี้ให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ ดำเนินการตรวจสอบบัญชีหวังเอาผิดต่อไป ล่าสุดนายอภิศักดิ์ อาคะณา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 บ้านนายาว ต.ทุ่งสมอ อ.เขาคัอ ซึ่งเป็น 1 ใน 2 ผู้นำที่ถูกพาดพิงกล่าวชี้แจงว่า ข้อมูลที่ร้องเรียนมีความคลาดเคลื่อนไม่ตรงกับข้อเท็จจริง โดยเฉพาะที่มีการกล่าวหาตนแอบอ้างใช้วิสาหกิจทุ่งกังหันลมไปประกอบกิจการรถราง ยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจการรถราง เนื่องเพราะไม่ได้เป็นคณะกรรมการและไม่มีอำนาจหน้าที่ใดๆในกลุ่มวิสาหกิจฯ
นายอภิศักดิ์กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากความขัดแย้งในกลุ่มวิสาหกิจบ้านเพชรดำ เกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนคณะผู้บริหารของกลุ่มวิสาหกิจฯดังกล่าว ในส่วนของกลุ่มวิสาหกิจบ้านนายาวไม่ได้มีปัญหาตามที่การร้องเรียนแต่อย่างใด ส่วนที่ระบุว่าการนำรถประเภทต่างๆมาวิ่งโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว นอกจากตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการวิ่งรถรางทุกประเภทและทุกกลุ่มแล้ว ยังเป็นเพียงผู้ที่พัฒนาที่ดินของตัวเองทำเป็นจุดท่องเที่ยว เพื่อให้รถรางมาจอดแวะพักเที่ยวชมเท่านั้น
เรื่องทุ่งเบบี้เลิฟนั้นเกิดจากแนวคิดต้องการเพิ่มแหล่งจุดสนใจให้แก่นักท่องเที่ยว เพราะเมื่อเข้ามาในทุ่งกังหันลมมักมีเสียงบ่นจากนักท่องเที่ยวว่าไม่มีอะไรให้ดู จึงลงทุนร่วมกับเพื่อนๆซึ่งไม่ใช่นายทุนต่างถิ่น จนกลายเป็นแลนด์มาร์กที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวอีกทาง แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องเพราะใช้ทุ่งเบบี้เลิฟกลายเป็นจุดจอดรถราง ทำให้ผู้ที่เสียผลประโยชน์ไม่พอใจและเป็นอีกปัจจัยที่ดึงตนเข้าพัวพันการร้องเรียนในครั้งนี้ด้วย “ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 กล่าวย้ำ”
นายอภิศักดิ์กล่าวอีกว่า ปัจจุบันยอมรับว่ามีการตั้งกลุ่มขึ้นหลายกลุ่ม และบางกลุ่มไปดึงนายทุนจากท้องที่อื่นเข้ามาลงทุนรถรางรับส่งท่องเที่ยว ปัจจุบันนอกจากกลุ่มวิสาหกิจทุ่งกังหันลม(3ชนเผ่า)แล้วยังมีกลุ่มอื่นๆอีกราว 4 กลุ่ม มีรถรางไม่ต่ำกว่า 30 คันที่วิ่งรับส่งนักท่องเที่ยวเข้าไปชมทุ่งกังหันลม
