ไฟป่าเขาค้อ ลามหนัก! เสียหายแล้วกว่า 80 ไร่

วันนี้ (12 มกราคม 2568) เจ้าหน้าที่เร่งระดมกำลังควบคุมเหตุไฟไหม้ป่าในพื้นที่เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ หลังไฟลุกลามเข้าเขตอุทยานแห่งชาติ เบื้องต้นมีพื้นที่เสียหายกว่า 80 ไร่ โดยเหตุเริ่มขึ้นเมื่อวานนี้ (11 ม.ค.) เวลา 18.00 น. จากจุดไฟไหม้ข้างทางถนนสายพิษณุโลก – หล่มสัก ก่อนลุกลามเข้าป่าสงวนแห่งชาติในพื้นที่ ต.น้ำชุน อ.หล่มสัก ซึ่งถือเป็นป่าชุมชนสำคัญของพื้นที่

นายศุภมิตร สุภามงคล หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าเขาค้อ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่กว่า 23 นายจากสถานีควบคุมไฟป่าและอุทยานแห่งชาติเขาค้อ ลงพื้นที่เพื่อเร่งควบคุมแนวไฟและดับไฟป่า โดยใช้เครื่องมือดับไฟ เช่น เครื่องเป่าลม ถังฉีดน้ำ และไม้กวาด ร่วมปฏิบัติการตลอดคืนที่ผ่านมา เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟลุกลามออกไปมากกว่านี้

ขณะเดียวกัน สถานการณ์ไฟป่าที่เขาลอย ต.พญาเย็น อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มีการประเมินเบื้องต้นว่าเสียหายราว 1,700 ไร่ โดยนายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและควบคุมไฟป่า เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่จากทุกหน่วยงานสามารถควบคุมและดับไฟได้แล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ (11 ม.ค.) และเหลือเพียงการเฝ้าระวังจุดที่เป็นตอไม้และแนวรอยดำจากไฟป่า ซึ่งอาจเกิดการปะทุซ้ำ

เจ้าหน้าที่ได้ใช้โดรนบรรทุกน้ำและกล้องตรวจจับความร้อนขึ้นบินตรวจสอบจุดที่ยังมีความร้อนหลงเหลือ และทำการทิ้งน้ำดับไฟบริเวณขอนไม้ขนาดใหญ่ที่ยังไม่ดับสนิท นอกจากนี้ กำลังพลจากกรมป่าไม้และกรมอุทยานฯ ร่วมกับทหารจาก มทบ.21 ยังคงปฏิบัติการเฝ้าระวังตลอดทั้งคืน โดยไม่พบการลุกลามเพิ่มเติม

ทั้งนี้ นายกิตติ เตียวตระกูลวัฒน ผู้อำนวยการส่วนควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังเป็นสองชุดหลัก คือ ชุดทำแนวกันไฟและชุดดับไฟที่ไหม้บริเวณขอนไม้ขนาดใหญ่ เพื่อควบคุมสถานการณ์ไม่ให้ขยายวงกว้าง พร้อมกำชับให้กำนันและผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ประชาสัมพันธ์ถึงอันตรายของการจุดไฟเผาป่า และขอความร่วมมือประชาชนให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าวเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก

สำหรับเหตุไฟป่าในครั้งนี้ เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา หลังศูนย์ส่งเสริมการควบคุมไฟป่าได้รับแจ้งจากองค์การบริหารส่วนตำบลพญาเย็น อ.ปากช่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังเข้าสกัดไฟทันที อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ไฟมอดดับสนิทโดยสมบูรณ์ภายในวันนี้ (12 ม.ค.)