‘หนุ่มเพชรบูรณ์’ ชี้แจง หลังตกเป็นข่าวติดเชื้อไวรัสโคโรนา

คนไข้รายดังกล่าวได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมด โดยระบุว่า “ผมเป็นคนในข่าวจริงครับ ผมต้องขอบอกตรงนี้ว่า ผมไม่ได้กินค้างคาวแต่อย่างใด และผลตรวจก็ยังไม่ออก ผมกินอาหารที่ปรุงสุกเสมอ และไม่มีสำนักข่าวดังกล่าวได้มาสัมภาษณ์ผมเป็นการส่วนตัวเลย”

จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวทางโซเชียล ว่ามีผู้ป่วยอาการคล้ายติดเชื้อไวรัสโคโรนา เข้ารักษาที่โรงพยาบาลหล่มสัก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ โดยในข่าวที่เผยแพร่ไปก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า “คนไข้รายนี้ เคยเดินทางไปประเทศจีน เคยรับประทานค้างคาวต้มตามที่เห็นในข่าว ทางโรงพยาบาลจึงกักตัวไว้พร้อมดำเนินการตามมาตรฐานสากลของการรักษาและควบคุมโรคติดต่อ เพื่อติดตามและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด นพ.ชัยวัฒน์ ทองไหม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า ในหลักการแล้วหากผู้ป่วยได้รับเชื้อคล้ายไวรัสอู่ฮั่นน่าจะมีอาการภายใน 7 วัน แต่ข้อเท็จจริงสำหรับผู้ป่วยรายนี้ คือมีอาการหลังจากกลับมาที่บ้านเราแล้ว ซึ่งอาการเท่าที่ดูเบื้องต้นเป็นอาการไข้หวัด ซึ่งในทางการแพทย์ให้เฝ้าระวังทุกราย  ”


จนถึงเมื่อวันที่ 26 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คนไข้รายดังกล่าวได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมด โดยระบุว่า “ผมเป็นคนในข่าวจริงครับ ผมต้องขอบอกตรงนี้ว่า ผมไม่ได้กินค้างคาวแต่อย่างใด และผลตรวจก็ยังไม่ออก ผมกินอาหารที่ปรุงสุกเสมอ และไม่มีสำนักข่าวดังกล่าวได้มาสัมภาษณ์ผมเป็นการส่วนตัวเลย และตอนนี้ได้มีเอกสารข้อมูลของผมได้หลุดออกไปทางออนไลน์จำนวนมาก หากใครพบเห็นเอกสารดังกล่าว รบกวนแค็ปคนที่โพสต์แล้วส่งมาให้หน่อยนะครับ แล้วรบกวนบอกต่อๆกันด้วยนะครับ
ปล.ผมอาจจะต้องขออนุญาตแจ้งความด้วยนะครับ
ปล.2 ผมป่วยจริง แต่ยังไม่มีผลตรวจว่าผมเป็นไวรัสชนิดดังกล่าวมายืนยัน ผมเป็นเพียงผู้ป่วยเฝ้าระวังเท่านั้นครับ”


ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ไม่ต้องตื่นตระหนกกับข่าวสารดังกล่าว เราดำเนินการป้องกันในขั้นสูงสุดตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งผลการตรวจจะได้ทราบผลในวันที่ 29 มกราคม 2563 และได้เน้นย้ำ ให้ประชาชนดูแลสุขภาพด้วย การกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ เพื่อป้องกันการติดเชื้อโรคต่างๆ และเรียกร้องให้สื่อมวลชนนำเสนอข่าวให้ถูกต้อง