เพชรบูรณ์เข็นมาตรการแก้วิกฤตขาดแคลนน้ำ หลัง 11 อ่างมีน้ำต้นทุนแค่พอใช้ คาดน้ำหมดอ่างเดือนเมษายน 2563 นี้

วันที่ 19 พฤศจิกายน นายเชษฐา ดิษยมาลย์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเพชรบูรณ์กล่าวว่า

สถานการณ์อ่างเก็บน้ำโดยรวมทั้ง 11 แห่ง ในปีนี้มีน้ำไหลเข้าอ่างค่อนข้างน้อย ปริมาณฝนเฉลี่ยแค่ 700 ม.ม.เศษ ทำให้มีน้ำต้นทุนมีแค่พอใช้ แต่ในด้านภาคการเกษตรมีการปล่อยน้ำให้ใช้ เพราะปีที่ผ่านมาเกษตรกรอดใช้น้ำ ฉะนั้นน้ำต้นทุนในภาพรวมปัจจุบันนี้เหลือราว 30 % น่าจะเพียงพออุปโภคบริโภคให้ผ่านพ้นฤดูกาลนี้เท่านั้นเองวิกฤตขาดแคลนน้ำ จึงจำเป็นต้องมีแผนบริหารจัดการน้ำต้นทุน รวมทั้งประชาสัมพันธ์การใช้น้ำอย่างประหยัด ส่วนอ่างป่าแดงเกิดวิกฤตโดยประเมินน้ำจะหมดอ่างในราวกลางเดือนเม.ย. ซึ่งในปี 2563 ก็ประเมินว่าสถานการณ์น้ำจะหมดอ่างใกล้เคียงกับปี 2562 เช่นเดียวกัน จึงต้องเข้ามาตรการเตรียมความพร้อม เพื่อรองรับสถานการณ์วิกฤตน้ำวิกฤตขาดแคลนน้ำ นายเชษฐากล่าวว่า หลังทางผู้ว่าฯได้รับรายงานได้ให้นโยบาย โดยจะให้ผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ตอนบนลงมาช่วย โดยในปี 2562 ที่ผ่านมามีการผันน้ำจากอ่างป่าเลาและอ่างท่าพลมาช่วย แต่เวลานี้ทั้งสองอ่างไม่มีน้ำจึงทำให้ต้องปรับเปลี่ยนแผนวิกฤตขาดแคลนน้ำ โดยจะต้องไปผันน้ำจากอ่างน้ำก้อ อ.หล่มสัก ซึ่งมีปริมาณน้ำเก็บกักราว 50% โดยสามารถโรยน้ำมาช่วยได้ แต่ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนให้ยินยอมปล่อยน้ำลงมาและต้องควบคุมการสูบน้ำกลางทาง

นายเชษฐากล่าวว่า อ่างน้ำก้อระยะทางไกลกว่าอ่างท่าพล คาดว่าตัองใช้ระยะเวลากว่า 1 เดือน กว่าน้ำจะไหลมาถึงจุดสูบน้ำจุดสูบน้ำบริเวณหลังวัดสนธิกร บริเวณคลองปากบู่ อ.เมืองเพชรบูรณ์ อย่างไรก็ตามขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการให้เจ้าหน้าที่ไปสำรวจวิกฤตขาดแคลนน้ำ นอกจากนี้ทางจังหวัดมีการขอเครื่องสูบน้ำจากอบจ.,และเทศบาลฯ รวมทั้งทางกรมชลประทานจะส่งเครื่องสูบน้ำมาติดตั้งให้ ในขณะที่ทางการประปาจะต้องสนับสนุนค่าน้ำมันเครื่องสูบน้ำเหล่านี้

ข้อมูล/รูปภาพ : 77ข่าวเด็ด