“หอโบราณคดีเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย” เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ และโบราณคดีของ จังหวัดเพชรบูรณ์

จังหวัดเพชรบูรณ์ “เมืองต้องห้าม…พลาด” รับรองว่าเมื่อคุณได้ไปสัมผัส คุณจะหลงรักเพชรบูรณ์

และอยากกลับไปอีกครั้งแน่นอน ด้วยมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย การเดินทางสะดวก สถานที่ท่องเที่ยวที่ทุกคนอยากไปเที่ยวชมทะเลหมอกที่อำเภอเขาค้อ หรือชมดาวบนดินรับความหนาวเย็นที่ ภูทับเบิก แต่ที่ตัวเมืองเพชรบูรณ์ นั้น ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะ “หอโบราณคดีเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย” ที่ปรับปรุงศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ หลังเก่าให้เป็นหอโบราณคดี

ที่จัดแสดง เรื่องราวทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีของจังหวัดเพชรบูรณ์ สำหรับนาม “อินทราชัย” นั้น อัญเชิญมาจากชื่อกรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย ซึ่งเป็นพระราชโอรสอันดับที่ 72 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว นัยยะสำคัญของการอัญเชิญพระนามนี้มาเผยแพร่ ก็เพื่อให้คนเพชรบูรณ์ได้เรียนรู้ และตระหนักว่า เพชรบูรณ์ของเราก็เป็นหัวเมืองสำคัญมาแต่ในอดีต

ถึงขนาดมีพระราชโอรสมาทรงกรม เป็นกรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย  ดร.เสกสรร นิยมเพ็ง
นายกเทศมนตรีเมืองเพชรบูรณ์ กล่าวว่า หอโบราณคดีเพ็ชรบูรณ์อินทรชัย “ฟังชื่อเหมือนจะเก่า แต่ไม่เก่าอย่างที่คิด” การออกแบบห้องนิทรรศการภายในนี้จัดทำขึ้นอย่างทันสมัย แต่ซ่อนความพิเศษไว้ภายใน ให้ผู้ชมได้ตื่นเต้นไปตลอดการรับชม ด้วยกลวิธีในการสื่อสารที่ไม่ซับซ้อน มีความกระชับ และใช้ภาพประกอบที่แทบไม่ต้องใช้ตัวอักษรอธิบาย

ผู้ชมก็สามารถเข้าใจเนื้อหาที่ต้องการสื่อสารได้ทันที ซึ่งช่วยกระตุ้นการรับรู้ได้มากกว่าการเข้ามายืนอ่านบอร์ดนิทรรศการที่เป็นตัวอักษรทั่วๆ ไปอย่างมาก ซึ่งการเปลี่ยนวิธีการสื่อสารที่ตอบโจทย์คนยุคดิจิทัลด้วยการนำเอาเทคโนโลยีการสื่อสารที่ทันสมัยมาย่นระยะเวลาในการรับสารของผู้ชม ด้วยการเชิญนักออกแบบ มาถ่ายทอดเรื่องราวให้ผู้ชมรับชมรับฟังด้วยตนเองผ่านทางระบบจอสัมผัส ทำให้นักท่องเที่ยวประทับใจไม่รู้ลืม

“หอโบราณคดีเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย” ผ่านการสืบค้นข้อมูลที่มีอยู่จริงพัฒนาและผสมผสานด้านศิลปวัฒนธรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง จนตกผลึกเป็นสถานที่รวบรวมทางประวัติศาสตร์ที่มีสีสันหลากหลาย งดงาม ทั้งยังคงความเป็นเอกลักษณ์ดุจอัญมณี มีค่าหลากสีที่ผ่านการเจียระไน จนพราวแสงเปล่งประกายงามเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของเพชรบูรณ์

เมื่อนักท่องเที่ยวได้เข้าไปยังอาคารหอโบราณคดีเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย สิ่งแรกที่พบเจอบนอาคาร คือ โถงต้อนรับผู้มาเยือน ค่อยให้บริการข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดเพชรบูรณ์
หลังจากนี้จะพาชมห้องแรก คือ “ห้องโรงหนังไทยเพ็ชรบูล” ตั้งชื่อตามโรงหนังแห่งแรกของเมืองเพชรบูรณ์ ได้จัดฉายหนังเรื่อง “ความไข้ที่เมืองเพชรบูรณ์”ภายในห้องนั้น ได้จำลองบรรยากาศที่นั่ง และบริเวณหน้าโรงหนังไทยเพ็ชรบูล ซึ่งจะมีของต่างๆ มาขาย เช่น อ้อยควั่น น้ำแข็งกด ข้าวโปง ข้าวโพดคั่ว เป็นต้น

“ห้องจากเขาคณาถึงศรีเทพ” ห้องที่จัดแสดงเรื่องราวในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ยุคทวารวดี มาจนถึงยุคขอม การจำลองวิถีชีวิตของมนุษย์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ การจัดแสดงแหล่งโบราณคดีต่างๆ ของจังหวัดเพชรบูรณ์ที่ขุดพบตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ การจำลองธรรมจักรโบราณ อะนิเมชั่นการสร้างเขาคลังนอก ศาสนสถานศิลปะพุทธทวารวดีที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์และใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รวมทั้งเล่าเรื่องราวของเขาถมอรัตน์

“ห้องวัดมหาธาตุ” จัดแสดงเรื่องราวของวัดมหาธาตุ ซึ่งเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองเพชรบูรณ์มาตั้งแต่สมัยสุโขทัย จัดแสดงกรุพระเครื่องสำคัญของเพชรบูรณ์ที่ขุดพบเมื่อปี พ.ศ.2510 ตลอดจนมีการจำลองลานประหารนักโทษสำคัญทางการเมือง มุมจัดแสดงจารึกลานทองทั้ง 3 แผ่น ซึ่งขุดพบในเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ในวัดมหาธาตุ

“ห้องครัวเพชรบูรณ์” เป็นห้องที่ว่าด้วยอาหารการกินต่างๆ ตั้งแต่วัตถุดิบ วิธีการกิน และอาหาร 7 เมนูที่ต้องชิม เช่น ซุปใบซ้าโก แกงบอน เมี่ยงค้น น้ำพริกขี้ปู อองปูปิ้ง แกงผักดีกั้ง รวมทั้งขนมพื้นบ้านที่หารับประทานได้ยากยิ่ง นำเสนอด้วยสื่อมัลติมีเดียที่ทันสมัย
ชั้นที่ 1 ผ่านไป ยังมีชั้น 2 ที่รับรองไม่ผิดหวัง จะทำให้นักท่องเที่ยวหลงมนต์ตราเพชรบูรณ์ และเข้าใจ รู้จัก รักเพชรบูรณ์ มากขึ้น “ห้องสมบัติเพชรบูรณ์” จัดแสดงโบราณวัตถุและสิ่งของที่มีค่าทางโบราณคดีของจังหวัดเพชรบูรณ์ อาทิ ข้าวสารดำ ชิ้นส่วนเทวรูป เรื่องราวตำราพิชัยสงครามของเมืองเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นตำราที่ใช้ในการรบ การจัดตั้งทัพ การดูฤกษ์ผานาที มีหน้าปกเป็นรูปสุนัข (สุนัขนาม)

ซึ่งเป็นโฉลกของแม่ทัพของเพชรบูรณ์ (พระยาเพชรรัตน์สงคราม) ในสงครามญวน
ซึ่งตำราพิชัยสงครามของจังหวัดเพชรบูรณ์ เรียกว่า “ฉบับพรหมบุญ” มีทั้งหมด 37 พยุหะ และ 21 กลศึก

“ห้องจากมณฑลสู่นครบาล” จัดแสดงเรื่องราวความเป็นมาของมณฑลเพชรบูรณ์ และเรื่องราวต่างๆ เมื่อครั้งที่จังหวัดเพชรบูรณ์ได้เป็นเมืองหลวงของประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ.2486-2487 โดยใช้ชื่อว่า “นครบาลเพชรบูรณ์” “ห้องเสาหลักเมืองทั้ง 2 แห่ง” แห่งแรกคือ เสาหลักเมืองโบราณที่เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเพชรบูรณ์ ส่วนเสาหลักเมืองแห่งที่สอง คือ เสาหลักเมืองหลวง ซึ่งจำลองมาจากเสาหลักเมืองหลวงที่ตำบลบุ่งน้ำเต้า เป็นเสาหลักเมืองที่บ่งบอกว่าครั้งหนึ่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้เคยเป็นเมืองหลวงของประเทศไทย

“ห้องเพชรบูรณ์เมื่อวันวาน” จัดแสดงเกี่ยวกับตลาดเก่า ร้านค้าเก่าแก่ ร้านค้าที่มีชื่อเสียงของจังหวัดเพชรบูรณ์ตั้งแต่เมื่อประมาณ 80 ปีที่แล้ว โดยในปัจจุบัน ร้านค้าเหล่านี้ก็ยังเปิดให้บริการอยู่ด้วย พร้อมได้จำลองวงเวียนน้ำพุ และหอนาฬิกาเมืองเพชรบูรณ์แบบดั้งเดิม มีรถบรรทุกขนส่งสินค้าและผู้โดยสารระหว่างเพชรบูรณ์-หล่มสัก

“ห้องตำนานเมืองเพชรบูรณ์” จัดแสดงเรื่องราวของตำนานจากที่ต่างๆ ของจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งรวบรวมมาจากทุกพื้นที่ทั้งหมด 9 เรื่อง อาทิ ตำนานเมืองเล็ง ตำนานวัดโพธิ์เจดีย์ลอย ตำนานถ้ำใหญ่น้ำหนาว ตำนานพระนางสิงขรเทวี ตำนานวัดหินกลิ้ง ฯลฯ โดยเล่าเป็นการ์ตูนอะนิเมชั่น 4 เรื่อง คือ ตำนานขอนไม้มาด ตำนานปู่สังกะ
สาย่าสังกะสี ตำนานเณรมั่นเณรคง และตำนานแม่นางผมหอม

“ห้องอุ้มพระดำน้ำ” จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติความเป็นมา และวิวัฒนาการของประเพณีอุ้มพระดำน้ำ ซึ่งเป็นประเพณีที่เก่าแก่ มีคุณค่า และแฝงไว้ด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น คู่บ้านคู่เมืองเพชรบูรณ์มาช้านาน “ห้องวิถีเพชรบูรณ์” จัดเสนอเรื่องราวที่เป็นประเพณีสำคัญในพื้นที่ต่างๆ ของจังหวัดเพชรบูรณ์ 9 เรื่องด้วยกัน และยังมีมุมแสดงเรื่องราวของเครื่องดนตรีตุ๊บเก่ง ดนตรีพื้นบ้านของเมืองเพชรบูรณ์ รวมทั้งจำลองการก่อเจดีย์ทรายกลบธาตุของชาวบ้านเมืองเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาช้านาน จำลองการแต่งกายของชาวพื้นเมือง เช่น คนสะเดียง คนวิเชียรบุรี ชาวบน ชาวม้ง แสดงการแต่งกายพร้อมลักษณะบ้านอยู่อาศัย

“ห้องไทหล่ม” เป็นเรื่องไทหล่ม ซึ่งนำเสนอเรื่องราวต่างๆ ของหล่มสัก-หล่มเก่า จำลองหุ่นขี้ผึ้งผู้ชายไทหล่มที่มีรอยสักอย่างลาวพุงขาว รายละเอียดเกี่ยวกับผ้าพื้นเมืองไทหล่ม “ห้องสมรภูมิเขาค้อ” เป็นการจัดแสดงเรื่องราวของสงครามระหว่างคนไทยด้วยกันเอง คือฝ่ายทหารไทยและฝ่ายคอมมิวนิสต์ การสู้รบที่ยาวนานกว่า 15 ปี บนสมรภูมิเขาค้อ การจำลองการล่องเรือลำน้ำเข็ก เพื่อชมแมงกะพรุนน้ำจืด ที่หนองแม่นา ซึ่งนับว่าเป็นแห่งที่ 6 ของโลกที่พบแมงกะพรุนน้ำจืด
บริเวณด้านนอกของตัวอาคารยังมีประติมากรรมที่น่าสนใจของผู้มาเยือน

“ประติมากรรมระบำตุ๊บเก่ง” เป็นการจำลองท่าร่ายรำและวงดนตรีพื้นบ้านของเมืองเพชรบูรณ์ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่น รวมทั้งลานด้านหน้าของตัวอาคารที่มองมุมสูงจะเห็นรูปฝักมะขาม เรียกว่า “ลานมะขามหวาน” สื่อถึงพืชเศรษฐกิจที่ทำรายได้ให้กับจังหวัดเพชรบูรณ์จำนวนมหาศาล เฉกเช่น นักท่องเที่ยวถ้านึกถึงเพชรบูรณ์ ต้องนึกถึง มะขามหวานนั้นเอง

หอโบราณคดีเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย เป็นศูนย์บริการการท่องเที่ยวเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ซึ่งให้บริการแนะนำแหล่งท่องเที่ยว แหล่งที่พัก และร้านอาหาร บริการไกด์นำเที่ยวพร้อมรถนำเที่ยวรอบเมืองเพชรบูรณ์ ในแคมเปญ 14 จุดสุดประทับใจ เที่ยวในเมืองเพชรบูรณ์

เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 น. – 16.00 น. ติดต่อสอบถามนำเที่ยว ได้ที่ 056-721523

 

แหล่งข้อมูล สวัสดิ์ มาพาก ปชส.ทม.พช. /และ nakornban