ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก หลังเกิดปัญหาที่จุดไฟเผาในช่วงฤดูเปิดหีบอ้อย

ที่อำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก

หลังเกิดปัญหาของใบอ้อยที่ถูกจุดไฟเผาในช่วงฤดูเปิดหีบอ้อย แล้วเกิดปลิวไปตามท้องฟ้า และไปตกตามสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านย่านชุมชน โดยเฉพาะตามตลาด ที่มีการขายสินค้า เช่นที่ตลาดเกษม ต.ซับสมอทอด อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์

บรรดาพ่อค้า แม่ค้า ต้องกางร่ม เพื่อป้องกันไม่ให้เขม่าใบอ้อย ปลิวตกใส่สินค้า หรืออาหารที่นำออกมาวางขาย ซึ่งหิมะดำ หรือเขม่าใบอ้อย ที่ถูกลักลอบจุดไฟเผา จะปลิวไปไกลกินพื้นทีเป็นบริเวณกว้างราว 3 กิโลเมตร ซึ่งได้สร้างความสกปรก ให้กับสถานที่ต่าง ๆ รวมไปถึงบ้านเรือนประชาชน และเป็นปัญหาให้กับชาวบ้าน โดยยังไม่มีหน่วยงานที่รับผิดชอบออกมาดูแลแก้ไขปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น

การเกิดหิมะดำ หรือเขม่าใบอ้อย สาเหตุนั้นเกิดจากการที่เกษตรกร ทำการเผาไร่อ้อยในช่วงฤดูเปิดหีบอ้อย เพื่อเตรียมตัดอ้อยส่งเข้าโรงงานผลิตน้ำตาล ที่มีอยู่ในพื้นที่ ซึ่งหากเกษตรกรไม่ทำการเผาอ้อย ก็จะหาคนงานรับจ้างตัดอ้อยได้ยาก เพราะใบอ้อยมีความคม และมีความระคายเคืองต่อผิวหนังเป็นอย่างมาก ดังนั้น เกษตรกรผู้ปลูกอ้อย ร้อยละ 90 หรือมีพื้นที่การปลูกอ้อยมากกว่า 1 แสนไร่ จึงนิยมทำการเผาป่าอ้อยก่อนทำการเข้าตัด ซึ่งการเผาอ้อยถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ที่ผ่านมาก็ไม่สามารถจับกุมหรือเอาผิดกับผู้ที่จุดเผาอ้อยได้ เพราะส่วนใหญ่จะอ้างว่า ไร่อ้อยของตนถูกคนลักลอบเผา ไม่ใช่เจ้าของไร่จุดเอง ถือเป็นข้ออ้างที่หลายหน่วยงานเอื้อประโยชน์ให้เกษตรกร

ส่วนผลกระทบนอกจากจะสร้างความสกปรกแล้ว เขม่าใบอ้อย ยังมีความระคายเคืองต่อผิวหนังของผู้ที่สัมผัส และจะเกิดอาการคัน โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่ซักตากไว้กลางแจ้ง เมื่อนำเสื้อผ้าไปสวมใส่ก็จะเกิดอาหารคัน ทำให้ประชาชนกำลังเดือดร้อนหนักจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยชาวบ้านได้แต่หวังว่า จะมีหน่วยงานที่รับผิดชอบ เข้ามาช่วยดูแลและช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งจะเกิดขึ้นตลอดฤดูการเปิดหีบรับซื้ออ้อยของโรงงาน.

แหล่งข้อมูล/ข่าวช่องวัน