ตำนานเมืองเล็ง ตำนานพื้นบ้านของคนวิเชียรบุรี-ศรีเทพ

ตำนานเมืองเล็ง เป็นตำนานพื้นบ้านของคนแถววิเชียรบุรี และศรีเทพ

ตำนานเมืองเล็ง มีการเล่าเป็นหลายแนวทางด้วยกัน แต่มีแกนคล้าย ๆ กัน แตกต่างในรายละเอียด ตำนานเมืองเล็งที่นำมาเสนอนี้ เป็นแนวทางที่ผูกโยงเรื่องราวได้กระชับกว่า

เรื่องมีอยู่ว่า  มีเมืองหนึ่งชื่อว่าเมืองเล็ง (แถว ๆ วิเชียรบุรี) มีเจ้าเมืองเล็งปกครองอยู่ มีลูกชายหนึ่งคน เมื่ออายุได้ 20 ปี ก็อยากจะมีคู่ครอง เจ้าเมืองเล็งจึงมาสู่ขอลูกสาวของเจ้าเมืองศรีเทพ ฝ่ายเจ้าเมืองศรีเทพบอกว่าถ้าอยากได้ลูกสาวไปเป็นลูกสะใภ้จริง ๆ ก็ให้สร้างถนนจากเมืองเล็งมาเมืองศรีเทพให้เสร็จก่อนพระอาทิตย์ขึ้น มิฉะนั้นจะถือไม่มีความตั้งใจจริงและจะไม่ยกลูกสาวให้

เจ้าเมืองเล็งตอบตกลง แล้วจึงเกณฑ์ไพร่พลมาลงมือเร่งสร้างถนนในทันที ในระหว่างการก่อสร้างนั้น ชาวเมืองเล็งได้ขุดดินกันไปทำถนนคนละจอบสองจอบ ได้เกิดสระใหญ่ขึ้นลูกหนึ่ง ปัจจุบันเรียกว่า สระลองจอบ พอถึงตอนกลางคืน ฝ่ายเมืองศรีเทพเกรงว่าทางเมืองเล็งจะมองไม่เห็นจุดหมายปลายทางที่จะต้องสร้างถนนให้มาถึง จึงได้ทำโคมไฟขนาดใหญ่แล้วยกขึ้นสูง

เพื่อให้ชาวเมืองเล็งเห็นแสงสว่าง แต่ทางฝ่ายเมืองเล็งกลับเข้าใจผิดคิดว่า พระอาทิตย์ขึ้นแล้วสว่างแล้ว การสร้างถนนไม่สำเร็จ จึงได้เลิกราไม่สร้างต่อไป ถนนจึงไม่ถึงเมืองศรีเทพ ดังนั้นจึงได้ชื่อว่าถนนขาด จอบเสียมถูกปักทิ้งไว้หนองสอบหนองแฟบ ขนมต่าง ๆ ที่เตรียมไว้ในพิธีแต่งงานก็สาดทิ้งที่ตรงนั้น ต่อมาตรงนั้นก็ได้ชื่อว่า ดงพญาสาด แล้วก็พากันกลับเข้าเมืองเล็งไป ก็เป็นอันว่าทั้งสองฝ่ายก็ไม่ได้แต่งงานกัน

ต่อมา ทางฝ่ายเจ้าเมืองเล็งคิดว่าเจ้าเมืองศรีเทพบิดพริ้ว ฝ่ายเจ้าเมืองศรีเทพก็คิดว่าเจ้าเมืองเล็งบิดพริ้ว เจรจากันไม่รู้เรื่อง จึงเกิดทำสงครามกัน ต่างฝ่ายต่างหาคนมีฝีมือดี ๆ มาสู้กันทำสงครามกัน แต่ฝ่ายเมืองเล็งรบเก่งกว่า สามารถบุกโจมตีทำให้ชาวเมืองศรีเทพล้มตายเป็นอันมาก ฝ่ายชาวเมืองศรีเทพเมื่อเห็นว่า จะพ่ายแพ้สงครามในครั้งนี้ จึงได้พากันหนีเอาตัวรอดไปได้บ้างแต่ก็ส่วนน้อย และยังได้ขนข้าวของออกจากเมืองศรีเทพไปซ่อนไว้ในถ้ำ

ซึ่งทุกวันนี้เรียกว่า ถ้ำพระเขาลวก และยังมีพระทองคำซึ่งพระสองพี่น้องจากเมืองศรีเทพนำเอาไปฝังไว้ที่บริเวณหน้าถ้ำ แต่ไม่มีผู้ใดเอาพระทองคำไปได้ ข้าวของต่าง ๆ ที่ขนย้ายไปนั้น ปัจจุบันนี้ก็กลายเป็นหินอยู่ที่บ้านใหญ่ เมืองศรีเทพ และสถานที่เมืองศรีเทพยกโคมไฟขึ้นนั้น ก็ได้ชื่อว่าหมู่บ้าน นาน้ำโคม มาจนทุกวันนี้ ส่วนเมืองเล็ง น่าจะเป็นบริเวณเขาเล็ง วิเชียรบุรีในปัจจุบันครับ

 

ข้อมูล/รูปภาพ : วิศัลย์ โฆษิตานนท์